เจาะลึก Thai ESG Fund กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน น่าสนใจอย่างไร

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thai ESG Fund คือกองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ หุ้น และพันธบัตรที่มีนโยบายด้านความยั่งยืน (Sustainability) ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม (E-Environment) สังคม (S-Social) และบรรษัทภิบาล (G-Governance) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ต่างก็หันมาให้ความสำคัญ

บทความนี้ Kubix จะชวนไปเจาะลึกกองทุน Thai ESG พร้อมอัปเดตข้อมูลก่อนเลือกลงทุน เพื่อให้นักลงทุนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคม พร้อมทั้งยังสามารถกระจายการลงทุนไปยังกองทุนรวมระยะยาวที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ในเวลาเดียวกัน

กองทุน Thai ESG มีนโยบายลงทุนเป็นอย่างไร

ปัจจุบัน กองทุน Thai ESG มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์หลักๆ 5 ประเภท ได้แก่

1. หุ้นด้านความยั่งยืน

หุ้นของธุรกิจที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET หรือ หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนใน SET หรือ mai กระดานหลัก ซึ่ง ก.ล.ต. ให้การยอมรับว่าโดดเด่นด้านความยั่งยืน ตัวอย่างเช่น กองทุนเปิดทิสโกหุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน (T-ThaiESG), กองทุนเปิดกรุงไทย ESG50 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (KTESG50-ThaiESG)

ปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้กำหนดมาตรฐานคัดกรองหุ้นยั่งยืน หรือ SET ESG Ratings เพื่อประเมินคัดเลือกหุ้นเข้าสู่กองทุน Thai ESG โดยบริษัทที่ได้รับคัดเลือกจะต้องได้คะแนนประเมินเกิน 50% เท่านั้น จึงจะได้รับการจัดอันดับเป็น AAA, AA, A และ BBB

2. หุ้นลดก๊าซเรือนกระจก

หุ้นของธุรกิจที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET หรือ mai กระดานหลัก ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนการจัดการก๊าซเรือนกระจก มีการตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือมีการทวนสอบการจัดทำ Carbon Footprint โดยผู้ทวนสอบที่ ก.ล.ต. ให้การยอมรับ เช่น กองทุนเปิดเค Target Net Zero หุ้นไทย ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน (K-TNZ-ThaiESG)

3. ตราสารความยั่งยืน

ตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ตราสารเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) หรือตราสารส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-linked Bond)

4. พันธบัตร

พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย หรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน หรือส่งเสริมความยั่งยืน แต่ไม่รวมหุ้นกู้แปลงสภาพ เช่น กองทุนเปิดเคเคพี พันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน (KKP GB THAI ESG)

5. Investment Token

โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Project) โครงการด้านความยั่งยืน (Sustainability Project) หรือโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-linked Project) หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Green Token นั่นเอง

ความน่าสนใจของกองทุน Thai ESG ที่นักลงทุนไม่ควรพลาด

ลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม

ปกติแล้ว กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนการออมเพื่อเกษียณอายุอื่นๆ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีรวมกันได้ไม่เกิน 500,000 บาท
แต่กองทุน Thai ESG นั้นไม่จัดอยู่ในกลุ่มดังกล่าว ผู้ลงทุนจึงสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้อีกไม่เกิน 300,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อปี

ระยะเวลาการถือครองสั้นกว่า SSF และ RMF

กองทุน Thai ESG มีระยะเวลาการถือครองสั้นกว่า SSF ที่ต้องถือ 10 ปีขึ้นไป และ RMF ที่ต้องถือจนถึงอายุ 55 ปี และต้องถือครบ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ
ล่าสุดทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ปรับเงื่อนไขให้กองทุน Thai ESG มีระยะเวลาลงทุนเพียง 5 ปีขึ้นไป จากเดิมที่บังคับถือ 8 ปีขึ้นไป
กองทุน Thai ESG นับระยะเวลาครบกำหนดแบบวันชนวัน ไม่ใช่ตามปีปฏิทิน เช่น หากซื้อกองทุนวันที่ 20 ตุลาคม 2565 จะสามารถขายได้หลังจาก 21 ตุลาคม 2573
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ต้องซื้อหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

ไม่บังคับซื้อต่อเนื่อง

กองทุน Thai ESG ไม่บังคับให้ซื้อต่อเนื่องทุกปีหรือปีเว้นปีเหมือน RMF
สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ตามปีที่ลงทุน กล่าวคือ ซื้อกองทุนปีไหน ได้ลดหย่อนภาษีในปีนั้น

ลงทุนตลาดในประเทศ เน้นพัฒนายั่งยืน

กองทุน Thai ESG เน้นลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่สนใจลงทุนในตลาดต่างประเทศ
หุ้นกลุ่มความยั่งยืนยังมีข้อดีอีก คือ ช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตและกระจายความเสี่ยงท่ามกลางตลาดที่ผันผวน

ปลดล็อกสู่ Investment Token

จากที่สำนักงานก.ล.ต. กำลังมีการปรับปรุงเกณฑ์ให้กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนใน Investment Token หรือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน เป็นหนึ่งในนโยบายการลงทุน จึงช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจ และได้สนับสนุนนโยบายด้านความยั่งยืน
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ในการมีช่องทางใหม่การระดมทุนผ่าน Green Tokenization เพื่อออก Investment Token ได้

โอกาสใหม่ในการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ถึงแม้ว่ากองทุนทั่วไปจะมีการลงทุนในโทเคนดิจิทัลอยู่แล้ว แต่กองทุน Thai ESG ยังมีเพียงกองทุนหุ้น ตราสารหนี้ และพันธบัตรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ไฟเขียวและกำลังจะรวมโทเคนดิจิทัลเข้าไปในนโยบายการลงทุนด้วย การปลดล็อกดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจด้าน ESG เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น แม้จะยังไม่เข้าเงื่อนไขจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม ส่วนในมุมผู้ลงทุนเอง จะได้มีทางเลือกที่เปิดกว้างเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกที่ไม่ใช่หุ้น ตราสารหนี้ หุ้นกู้ หรือพันธบัตรเช่นกัน

นับได้ว่า Thai ESG Fund เป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกองทุนได้รวมโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเข้าไปเป็นหนึ่งในนโยบาย หากผู้ลงทุนสนใจกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างความยั่งยืนให้กับสังคมสิ่งแวดล้อม

บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำทางการลงทุน นักลงทุนโปรดศึกษาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
โทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุนและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้

สนใจปรึกษาเรื่องการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัล ติดต่อได้ที่ contact.us@kubix.co

ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่ :
➡ LINE Official: @Kubix (https://lin.ee/Jub58gd)
➡ Facebook: Kubix.DigitalAsset (www.facebook.com/Kubix.DigitalAsset)
➡ Website: www.kubix.co