อนาคตการใช้ Digital Token ของแต่ละ Generation

โดย Kubix

หากพูดถึงสินทรัพย์ดิจิทัลในวันนี้ คงต้องพูดโทเคนดิจิทัล (Digital Token) ที่หลายคนเริ่มจะคุ้นกันมากขึ้น หากกล่าวอย่างรวบรัด  คือหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือโทเคนในการร่วมลงทุน (Investment Token) หรือสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าและบริการ (Utility Token) ตามที่ได้ตกลงกับผู้ออกโทเคน ซึ่งทำการเสนอขายโทเคนผ่านกระบวนการ Initial Coin Offering (ICO) และในอนาคตอาจมีการนำโทเคนดิจิทัลไปใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับแต่ละ Generation ด้วย โดยแต่ละวัยนั้นก็จะมีจุดประสงค์และการใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป  ซึ่งบทความนี้จะมายกตัวอย่างอนาคตการใช้โทเคนดิจิทัลของแต่ละ Generation ให้ทุกท่านได้เห็นภาพกันมากยิ่งขึ้น  

Generation หรือ Gen คือการแบ่งกลุ่มประชากรตามหลักประชากรศาสตร์โดยจะแบ่งตามยุคสมัยและช่วงปีที่เกิด ซึ่งการแบ่ง Generation ทั่วไปจะแบ่งออกเป็น Baby Boomer, Generation X, Generation Y และ  Generation Z  โดยในแต่ละ Gen จะมีลักษณะนิสัย วิธีคิด ไลฟ์สไตล์ และช่องทางการรับข่าวสารที่แตกต่างกัน รวมถึงวิธีการเลือกใช้ประโยชน์จากโทเคนดิจิทัลด้วย ซึ่งอาจเป็นเพราะโตมาในสภาพแวดล้อมหรือยุคสมัยที่ต่างกัน

การใช้ Digital Token ในอนาคตของแต่ละ Generation

  1. Baby Boomer หรือ Gen B (อายุ 55 ปีขึ้นไป)
    Baby Boomer คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2489 – 2507 คน Gen นี้ส่วนมากเป็นคนรุ่น ปู่ ย่า ตา ยาย หรือคนวัยเกษียณที่มีอายุมากกว่า 55 ปีขึ้นไป มีลักษณะนิสัยจริงจัง ประหยัด ใช้ชีวิตทุ่มเทให้กับการทำงาน ยึดติดกับธรรมเนียมและมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม

    เลือกใช้โทเคนดิจิทัลแบบไหน : Baby Boomer อยู่ในวัยที่แทบจะเรียกได้ว่าใกล้จะหมดภาระแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนรถหรือผ่อนบ้าน และใกล้เกษียณอายุงาน จึงมักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุนทุกรูปแบบเพราะต้องการวางแผนการเงินให้พอสำหรับการใช้ชีวิตในบั้นปลายของตัวเอง ในการบริหารเงินนั้น คนยุค ฺBaby Boomer มีแนวทางที่เน้นไปในเรื่องของการดูแลสุขภาพและการไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้แบ่งเงินมาลงทุนเลย แต่อาจเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนน้อยและส่วนมากเป็นเงินเก็บ ซึ่งอาจเลือกลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ในโครงการที่สนใจเพื่อรับผลตอบแทนในรูปแบบของตัวเงิน เช่น การได้ดอกเบี้ย หรือเงินปันผลจากโครงการนั้นๆ  อีกหนึ่งการลงทุนโทเคนดิจิทัลที่เหมาะกับ Gen นี้ คือการลงทุนโทเคนที่ให้สิทธิในการรักษาพยาบาล เพราะเมื่ออายุมากขึ้นก็อาจจะมีปัญหาสุขภาพตามมาได้
     
  2. Generation X หรือ Gen X (อายุ 40-54 ปีขึ้นไป)
    คน Gen X คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2508 - 2522 อาศัยอยู่กับสภาพแวดล้อมสงบเรียบร้อยแล้ว และมีความมั่นคงในชีวิตสูง เติบโตและใช้ชีวิตมากับเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ วิดีโอเกม หรือโทรศัพท์มือถือ คน Gen X ในวัยทำงานอายุ 40 ขึ้นไป เป็นคนชอบอะไรง่ายๆ ไม่ชอบอะไรที่เป็นทางการ มี Work Life Balance สูง ทำงานแบบอิสระได้ดี มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เปิดกว้าง มีความคิดสร้างสรรค์  และไม่ยึดติดกับขนบธรรมเนียม

    เลือกใช้โทเคนดิจิทัลแบบไหน : คน Gen X เป็นคนที่มีความพร้อมในการลงทุนมากที่สุด เพราะมีรายได้มาก มีความรู้และ ฐานะมั่นคง รวมทั้งมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น หากจะลงทุนในโทเคนดิจิทัลก็อาจเป็นโทเคนเพื่อการลงทุน (Investment Token) เพื่อรอรับผลประโยชน์หลังจากเกษียณ โดยแบ่งเงินออมส่วนหนึ่งของเงินเก็บสำหรับโทเคนเพื่อการลงทุน  และอีกส่วนฝากไว้กับธนาคารหรือลงทุนโทเคนดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของสิทธิประโยชน์ (Utility Token) เช่น สิทธิในการเข้าพัก สิทธิประโยชน์จากการซื้อบ้านหรือคอนโด สิทธิในการเข้ารักษาพยาบาล รวมไปถึงการนำสิทธิพิเศษมาช่วยลดหย่อนภาษีได้ด้วย อีกหนึ่งการลงทุนโทเคนดิจิทัลที่เหมาะกับ Gen นี้ คือ การลงทุนโทเคนที่ให้สิทธิประกัน ทั้งประกันสุขภาพและประกันที่เป็นการเก็บเงินเอาไว้ใช้ในระยะ 10 - 20 ปีข้างหน้านั่นเอง
     
  3. Generation Y หรือ Gen Y (อายุ 23-39 ปีขึ้นไป)
    คน Gen Y คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2523 – 2540 เรียกได้ว่า Gen นี้โตมากับการพัฒนาของเทคโนโลยี มีความเชี่ยวชาญและพร้อมปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนมากที่สุดในสังคมโดยมักจะเป็นคนวัยทำงานและนักศึกษา โดยลักษณะนิสัยเป็นคนที่มีความเป็นตัวสูง มีอิสระทางความคิด ไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ ให้ความสำคัญในการสมดุลชีวิตงานและชีวิตส่วนตัว

    เลือกใช้โทเคนดิจิทัลแบบไหน : คน Gen Y จะมีสัดส่วนในการลงทุนที่แตกต่างกัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยทำงาน บางคนอาจลงทุนเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว บางคนอาจมีครอบครัว มีบ้าน คอนโด รถ หรือเริ่มมีภาระอื่นๆ และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น  ดังนั้นอาจแบ่งเงินลงทุนโทเคนดิจิทัลจากส่วนหนึ่งของเงินออมที่สามารถเลือกลงทุนได้หลากหลายและตอบโจทย์การใช้ชีวิต โดยอาจเลือกลงทุนในโทเคนที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เช่น โทเคนที่ให้สิทธิในการเข้าชมภาพยนตร์รอบพิเศษ สิทธิในการเข้าชมคอนเสิร์ตแบบเอ็กซ์คลูซีฟ สิทธิในการเข้าชมฟุตบอล สิทธิในการใช้ส่วนลดขึ้นรถไฟฟ้าสาธารณะ เป็นต้น ส่วนเงินเก็บส่วนที่เหลือก็อาจเก็บไว้เป็นเงินออมหรือแบ่งมาลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่ได้ดอกเบี้ยสูง
     
  4. Generation Z หรือ Gen Z (อายุ 10-22 ปีขึ้นไป)
    Gen Z คือ Gen ใหม่ที่สุดในยุคปัจจุบัน เป็นกลุ่มคนที่เกิดหลังพ.ศ. 2540 เป็นต้นไป เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย สามารถใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ได้ดี เรียนรู้เร็ว เป็น Gen ที่มีจำนวนมากสุดในประเทศไทยขณะนี้ เนื่องจากเกิดในยุคที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน จึงมีลักษณะนิสัยที่ให้ความสำคัญกับความสุขทางใจ คล่องแคล่วกับการใช้เทคโนโลยีและสื่อดิจิทัล ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนโลกออนไลน์ ตามแฟชั่นและกระแสต่างๆ เป็นต้น 

    เลือกใช้โทเคนดิจิทัลแบบไหน : คน Gen Z บางส่วนที่อายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไปเริ่มมีรายได้บางส่วนจากการทำงานและอาจเริ่มลงทุนโดยพิจารณาตามสัดส่วนเงินออมที่ตนเองเห็นว่าเหมาะสมหรือรับได้ สำหรับคน Gen Z ที่อายุต่ำว่า 20 ปีนั้น สามารถเริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนเบื้องต้นและเก็บออมเงินบางส่วนสำหรับลงทุนในโทเคนดิจิทัลเมื่ออายุ 20 ปีบริบูรณ์แล้ว การเริ่มลงทุนของ Gen Z ในที่อยู่ในวัยทำงานควรขึ้นอยู่หลายๆ ปัจจัย เช่น จำนวนเงินออมปัจจุบันที่มีหรือการคาดเดาค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ฉะนั้นอาจแบ่งเงินเก็บส่วนน้อยมาลงทุน โดยแบ่งมาลงทุนในประเภทการลงทุนที่คิดว่าจะได้ผลตอบแทนในระยะยาวและสมเหตุสมผล หรือเลือกลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบสิทธิประโยชน์ (Utility Token) ที่ตรงกับความชอบและไลฟ์สไตล์ เช่น สิทธิในการรับชมภาพยนต์หรือคอนเสิร์ตที่ชื่นชอบ หรือส่วนลดพิเศษสำหรับการชอปปิ้งออนไลน์

จะเห็นได้ว่าแต่ละ Generation มีจุดประสงค์ในการลงทุนและการใช้งานโทเคนดิจิทัลที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็สามารถเลือกแนวทางลงทุนได้ โดยบางคนอาจจะเริ่มลงทุนจากโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) หรือการลงทุนในโทเคนดิจิทัลหรือบางคนอาจจะเริ่มจากลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อสิทธิประโยชน์ (Utility Token) ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ลงทุนในบาง Gen ที่ชื่นชอบทำกิจกรรมหรือติดตามกระแสต่างๆ อยู่เป็นประจำ ทั้งนี้คนในทุก Generation เองควรลงทุนโทเคนดิจิทัลเมื่อศึกษาและเข้าใจข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนในโทเคนดิจิทัลอย่างละเอียด พร้อมทั้งหาสมดุลและทางเลือกที่หลากหลายในการลงทุนที่ตอบโจทย์ชีวิตของผู้ลงทุนเองเช่นกัน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

scroll top iconBack to top