อยากลงทุน Digital Token ต้องทำอย่างไร

โดย Duangthida Thongterm
image1.jpg

 เมื่อโลกสินทรัพย์ดิจิทัลก้าวเข้ามามีบทบาทมากขึ้น นักลงทุนสนใจ Digital Token และ Cryptocurrency กันมากขึ้น จึงกลายเป็นปรากฏการณ์สำคัญของการลงทุนว่า Digital Token คืออะไร และราคาของ Digital Tokenจะขึ้นอยู่กับอะไร คำถามเหล่านี้นักลงทุนมือใหม่หรือบุคคลทั่วไปต่างสงสัย และอยากหาช่องทางในการเข้ามาลงทุนหรือหาวิธีการเข้าสู่วงการสินทรัพย์ดิจิทัล แต่อย่างไรก็ตามเมื่อ มีความสนใจโทเคนดิจิทัลแต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจหรือวิธีลงทุนที่ถูกต้อง อาจทำให้นักลงทุนมือใหม่กระโจนลงเหวแบบไม่ทันตั้งตัวได้  

โดยปัจจุบัน Kubix เองก็ได้มีทางเลือกใหม่ในการระดมทุนหรือลงทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ซึ่งการระดมทุนจะดำเนินการโดยการแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบโทเคนดิจิทัล แล้วระดมทุนผ่าน ICO Portal โดยเป็นที่ปรึกษาแก่ผู้ที่สนใจเสนอขายโทเคนดิจิทัลและเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลให้แก่นักลงทุนในตลาดแรก 

ทำความรู้จัก Digital Token  

Digital Token หรือสินทรัพย์ดิจิทัล จัดเป็นหน่วยอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อ “กำหนดสิทธิ” ของผู้ถือโทเคนว่าจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามกฎหมายไทย 

  1. โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน(Investment Token)  
    โทเคนประเภทนี้จะคล้ายกับการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้ถือโทเคนจะได้รับผลประโยชน์ต่างๆ จากการถือโทเคนตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไว้ เช่น ส่วนแบ่งกำไร 
  2. โทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์(Utility Token) 
    โทเคนประเภทนี้จะบอกสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของผู้ถือโทเคนไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ถือโทเคนได้รับการบริการหรือแลกเปลี่ยนสินค้าแทนเงินสดตามเงื่อนไขของเหรียญนั้นๆ เช่น ใช้เหรียญโทเคนนี้แลกเปลี่ยนการบริการต่างๆ ภายในองค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยเฉพาะ  

อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ Non-Fungible Token หรือเรียกกันอย่างแพร่หลายว่า NFT ก็เป็นโทเคนดิจิทัลชนิดหนึ่งที่สามารถใช้แสดงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์และถูกสร้างขึ้นบน Blockchain โดยที่แต่ละโทเคนจะไมสามารถแทนกันได้และมีมูลค่าที่แตกต่างกัน ต่างจากโทเคนอื่นทั่วไปที่หนึ่งโทเคนของเรากับหนึ่งโทเคนของเพื่อนก็มีค่าเท่ากัน ด้วยคุณสมบัตินี้ ทำให้มีคนนำ NFT มาใช้ในงานศิลปะ เพราะงานศิลปะทุกชิ้นย่อมมีเอกลักษณ์ของตัวเอง หรือนำมาใช้เป็นไอเทมในเกม หรือเสื้อผ้าในโลก Metaverse เพื่อให้เจ้าของในโลกดิจิทัลสามารถเป็นเจ้าของสิ่งเหล่านี้ได้จริงๆ รวมทั้งสามารถส่งต่อหรือเอาไปขายได้ และไอเทมหนึ่งชิ้นก็อาจจะมีค่าพลังไม่เหมือนกับอีกชิ้น ด้วยคุณสมบัติพิเศษเช่นนี้ ส่งผลให้เราได้เห็นกระแส NFT มาแรงเป็นอย่างมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าของ NFT จริงๆ นั้นจะมีความีความแตกต่างเฉพาะตัว ต่างกันไปตามแต่บุคคลหรือกลุ่มผู้คนต่างๆ จะให้มูลค่ากับมัน 

 

โทเคนดิจิทัลทำผ่านกระบวนการ ICO ไม่ใช่ IPO  

การระดมทุนแบบ ICO (Initial Coin Offering) คือการระดมทุนรูปแบบหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วย โดยผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลจะเสนอและกำหนดขายโทเคนที่กำหนดสิทธิหรือผลประโยชน์ต่างๆ ของผู้ลงทุน เช่น ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ หรือสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการที่เฉพาะเจาะจง และกำหนดให้ผู้ลงทุนที่ต้องการจะร่วมลงทุนสามารถเข้าร่วมได้โดยการนำคริปโทเคอร์เรนซีหรือเงินมาแลกโทเคนที่บริษัทออก โดยมีการกำหนดสิทธิที่จะได้รับผ่าน Smart Contract บนเทคโนโลยีบล็อกเชน  

ซึ่ง ICO อาจไม่ใช่หุ้นและไม่ใช่หนี้ แม้ ICO จะมีชื่อคล้ายกับ IPO (Initial Public Offering) หรือการออกและเสนอขายหุ้นต่อประชาชน แต่ก็มีสาระสำคัญที่แตกต่างกันมาก ผู้ถือโทเคนจากการลงทุนใน ICO อาจไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทเหมือนผู้ถือหุ้น IPO และอาจไม่ได้มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของบริษัท จึงไม่มีสิทธิในทรัพย์สินของบริษัทกรณีเลิกกิจการหรือล้มละลาย แต่ผู้ถือโทเคนจะมีสิทธิตามที่ระบุในเอกสารประกอบการเสนอขาย (White Paper)  

 

ศึกษาแนวโน้ม Digital Token  ในอนาคตก่อนลงทุน   

สำหรับประเทศไทยได้มีการออก พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัล ออกมาในปีพ.ศ. 2561 โดยมีการรับรองผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  (ก.ล.ต.) ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึง ICO Portal  เท่ากับว่าการระดมทุน ICO ได้รับการรับรองอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยแล้ว   

โดยบริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix)  ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาในกระบวนการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อนักลงทุนในตลาดแรก รวมทั้งคัดกรองผู้จะเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัล 

จะเห็นได้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกแม้กระทั่งประเทศไทยเอง ปัจจุบันก็มีการซื้อขายโทเคนอย่างถูกกฎหมายภายใต้ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 ยิ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19 ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลก ต่างก็ออกมาแสดงมุมมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) จะยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็น Cryptocurrency หรือ Digital Token ซึ่งวิกฤตินี้จะเป็นสิ่งที่เร่งให้คนปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายในระบบการชำระเงินเป็นแบบดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นDigital Token จึงเป็นกระแสการลงทุนที่น่าจับตามอง นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่นอกเหนือจาก Cryptocurrency เช่น บิตคอยน์ อีเธอเรียม  

 

image4.jpg

 

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนลงทุนโทเคนดิจิทัล 

  1. Smart Contract ต้องมีข้อมูลตรงกับ White Paper ซึ่งผ่านการตรวจสอบจาก Initial Coin Offering Portal (ICO Portal) 

  1. บริษัทที่เสนอขายโทเคนดิจิทัลต้องได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. แล้วเท่านั้น เพราะหากไม่ได้รับการรับรองนี้ การลงทุนของคุณก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองเช่นกัน 

  1. ควรอัปเดตข่าวสารจากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่อง เพราะการลงทุนในเหรียญดิจิทัลในไทยทุกรูปแบบจะต้องผ่านการรับรองจากสำนักงาน ก.ล.ต. เท่านั้น 

  1. ควรเลือกลงทุนในโทเคนที่เหมาะกับตัวเองด้วยการลงทุนครั้งละน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ลงทุนเพิ่มเมื่อคุณเข้าใจกลไกตลาดดิจิทัลมากขึ้น

Digital Token จึงนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ลงทุนในยุคใหม่ที่ต้องการแสวงหาการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกยิ่งเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน หรือ Investment Token นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการถือหุ้นทองคำดีๆ กล่าวคือ เราจะมีสิทธิได้ส่วนแบ่งกำไรจากที่โครงการลงทุน หรืออาจจะได้ปันผลด้วยก็เป็นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ดังนั้นผู้ลงทุนควรจะศึกษาเรื่องเหล่านี้ไว้ อย่างน้อยก็จะได้มีความรู้เบื้องต้น และที่สำคัญเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง จะได้ไม่เสียเหลี่ยมให้พวกมิจฉาชีพที่แฝงมาในคราบของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง  ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

scroll top iconBack to top